16 WORLD BEST ROAD TRIPS ชวนขับรถท่องโลก กับ 16 เส้นทางชวนฝัน

Posted on

สำหรับใครที่อยากเพิ่มประสบการณ์ให้ชีวิต ไม่อยากอยู่แค่ในเมืองที่รถติดวินาศสันตะโร อะไรจะดีไปกว่าการปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไประหว่างขับรถแล่นฉิวท่ามกลางวิวดีๆ ทั้งสองข้างทาง ไม่ว่าจะไปกับเพื่อน กับคนรัก หรือกับตัวเองเพียงคนเดียว ทริปของคุณก็สามารถเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ชวนจดจำได้ทั้งนั้น อย่างน้อยก็ในฐานะของความอิสระเสรีที่จับต้องได้อย่างแท้จริง

และต่อไปนี้ก็คือบรรดาเส้นทาง road trip ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเราได้คัดมาจากหลายๆ เว็บท่องเที่ยวระดับสากล ที่เชื่อว่าคุณต้องหลงรักและอยากจะเตรียมตัวให้พร้อมซะเดี๋ยวนี้แหละ

[01]
ROUTE 66
USA  /
Chicago – California
Route 66 อันโด่งดังนี้มีความยาวกว่า 2,448 ไมล์ (3,945 กิโลเมตร) จากเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ไปถึงลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ยาวไกลขนาดข้าม 3 ไทม์โซนเลยทีเดียว
เส้นทางนี้มีอีกชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Will Rogers Highway นับเป็นถนนเส้นประวัติศาสตร์ของอเมริกา เพราะเป็นทางหลวงสายแรกๆ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1926 และเป็นเส้นทางหลักในการอพยพจากอเมริกาฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตกเพื่อแสวงหาชีวิตใหม่
แม้ทุกวันนี้ Route 66 ก็ไม่ได้ทางหลวงสายหลักแล้ว แต่มันก็ได้กลายเป็นเส้นทางชมวิว (National Scenic Byway) ที่ทอดยาวผ่านทัศนียภาพอันแตกต่างชนิดที่ว่าถ้าใครขับรถผ่านครบทั้งเส้นทางแล้ว จะถือว่าได้ทำความรู้จักอเมริกาแบบฉบับย่อแล้วล่ะ
สำหรับวิวที่จะเห็นก็มีทั้งทางตรงกับทุ่งเวิ้งว้าง ทิวกระบองเพชร มีภูเขาเป็นฉากหลัง โมเต็ลป้ายไฟนีออนแบบในหนังอเมริกันยุคเก่า เมืองเล็กเมืองใหญ่ ไปจนถึงวิวแบบทุ่งหญ้าสุดปลอดโปร่ง รวมถึงฟาร์มงามๆ อีกตลอดเส้นทาง

[02]
PACIFIC COAST HIGHWAY
USA
Seattle – California
พูดถึงการเดินทางจากฝั่งตะวันออกไปตะวันตกกันแล้ว คราวนี้เป็นการเดินทางจากเหนือลงใต้ ในทางแถบชายฝั่งแปซิฟิก ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์อย่าง Route 66 แต่ถ้าพูดถึงความงามทางธรรมชาติก็ถือว่าไม่เป็นรอง เพราะนี่คือเส้นทางที่จะชมความงามของภูมิภาค Pacific North West ได้ดีที่สุด
เริ่มตั้งแต่ทิวป่าสนชวนฝัน (นึกภาพประมาณวิวแถวบ้านพระเอกในหนัง Twilight) ที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าอย่างกวางหรือแรคคูนที่แวะเวียนมาให้เห็นกันถึงข้างถนน ผ่านแม่น้ำ Columbia River George เรื่อยลงมาเป็นแนวชายฝั่งที่เป็นแหล่งของพวกแมวน้ำ แถมยังผ่านเมืองสุดฮิปส์อย่าง Portland ด้วย และเมื่อลงไปทางใต้ก็จะเปลี่ยนอารมณ์เป็นเมืองสีสันจัดจ้านอย่างซานฟรานซิสโก ลอสแอนเจลิสทันที คนที่รักไลฟ์สไตล์ทำนองนี้ถือว่าห้ามพลาด

[03]
SAN JUAN SKYWAY
USA
Colorado
เส้นทางท่องรัฐโคโลราโดเป็นระยะทาง 380 กิโลเมตร ที่ว่ากันว่าสวยงามทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นวิวน้ำตกและป่าไม้สุดสดชื่นในฤดูใบไม้ผลิ ทุ่งดอกไม้แสนสวยในฤดูร้อน หรือจะวิวภูเขาหิมะในฤดูหนาว แต่ที่แนะนำที่สุดคือวิวใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงแคนยอนหรือแนวเสาดินสุดอลังการ เป็นเส้นทางที่อาจจะมีช่วงที่คดเคี้ยวเยอะหน่อย แต่รับประกันว่าสวยงามทุกโค้ง

[04]
THE RING ROAD
ICELAND
Around the island
เส้นทาง 1339 กิโลเมตรรอบเกาะไอซ์แลนด์​ ที่แนะนำว่าต้องเป็นรถโฟร์วีลเท่านั้นถึงจะไปรอด แต่เมื่อไปถึงแล้ว รับรองว่าวิวสวยเกินคุ้ม เพราะไอซ์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว ทั้งวิวภูเขาน้ำแข็ง เทือกเขาสลับซับซ้อน ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่กับฝูงปศุสัตว์ ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ ฟยอร์ดสีฟ้าคราม รวมกันเป็นวิวแปลกตาแบบที่หาที่ไหนไม่ได้ในโลก

[05]
CAUSEWAY COASTAL ROUTE
IRELAND
Northern Ireland
แฟน Game of Thrones จะต้องรักเส้นทางนี้ เพราะนี่คือคีย์โลเคชั่นสำคัญของซีรี่ส์เรื่องดัง เราสามารถขับรถเที่ยวชมบรรยากาศแบบยุโรปเหนือแสนลึกลับและสุดจะแฟนตาซีได้ตลอดทาง เป็นทั้งป่าทึบสลับทุ่งโล่งและปราสาทโบราณมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

[06]
THE FLOWER ROUTE
NETHERLAND
IJmuiden-Noordwijk
หรือที่รู้จักในชื่อ Bollenskreek Route นับเป็นถนนของคนรักดอกไม้และฤดูใบไม้ผลิโดยเฉพาะ เพราะนี่คือเส้นทางสำหรับการขับรถดื่มด่ำความงามของทุ่งดอกทิวลิปสุดตระการตา ที่เรียงรายสลับสีสันอย่างสวยงาม แถมมีกังหันลมเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวิวที่จะเห็นได้เฉพาะที่เนเธอร์แลนด์เท่านั้

[07]
ROMANTIC ROAD
GERMANY
Bavaria
เส้นทางตรง 350 กิโลเมตร ที่ตัดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้กลับเข้ามาเที่ยวเยอรมัน และก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะถนนเส้นนี้พาทุกคนเข้าสู่ใจกลางเมืองแฟรงค์เฟิร์ตที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรมและไนท์ไลฟ์อันขึ้นชื่อลือชา แถมยังผ่านเส้นทางชนบทที่สวยงาม มีทั้งวิวไร่องุ่น หมู่บ้าน โบสถ์สวยๆ ปราสาทเก่าอีกหลายแห่ง​โดยเฉพาะปราสาท Neuschwanstein ที่เหมือนพาเราย้อนไปอยู่ในเทพนิยายยังไงอย่างงั้น

[08]
AMALFI COAST
ITALY
Naples – Salerno
เป็นเส้นทางที่ท้าทายแต่คุ้มค่าที่ได้ไปเยือน เพราะเป็นการขับรถลัดเลาะแนวสันเขาไปตามชายฝั่ง Amalfi ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี เพื่อชมวิวเมืองเล็กๆ สุดน่ารักที่โอบล้อมด้วยหุบเขาทางด้านหลัง และด้านหน้าเป็นทะเลสีสวย แถมยังเป็นแหล่งอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิมที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

[09]
CABOT TRAIL
CANADA
Cape Breton Island
เส้นทางนี้อยู่บนเกาะทางตอนเหนือของแคนาดา ด้วยความยาว 298 กิโลเมตร ที่พาชมทัศนียภาพรอบๆ เกาะที่ว่ากันว่าเป็นส่วนที่สวยที่สุดของแคนาดาแถบเหนือ สูดอากาศสดใสกับวิวชายฝั่งทะเลกว้างไกล แล้วยังได้ผ่านส่วนของ Cape Breton Highland National Park ที่เป็นแหล่งอาศัยของนกอินทรีหัวล้าน กวางมูส หมีสีดำและสัตว์ป่าหายากอีกหลายชนิด

[10]
SOUTHERN SCENIC ROUTE
NEW ZEALAND
Around the island
เป็นเส้นทางรอบเกาะทางใต้ของนิวซีแลนด์ เทพเจ้าแห่งวิวทิวทัศน์อันเป็นโลเคชั่นในการถ่ายหนังเรื่อง The Lord of The Ring ฉากหมู่บ้านฮอบบิทอันสงบสวยงาม เต็มไปด้วยวิวสวยๆ ทั้งทะเลสาบ ป่าเขา ภูเขา น้ำตก ธารน้ำแข็ง ถ้ำ และชายฝั่งทะเลที่เป็นแหล่งชมสัตว์หายากอย่างเช่นนกอัลบาทรอส วาฬ ปลาโลมา และฝูงแมวน้ำ

[11]
GREAT OCEAN ROAD
AUSTRALIA
Victoria State
อยู่ทางตอนใต้ของรัฐวิกตอเรีย ที่นอกจากมีวิวที่สวยงามแล้ว ยังมีเรื่องราวตราตรึงใจเพราะนี่เป็นถนนสายที่ระลึกถึงเหล่าผู้สละชีพในสงครามโลกครั้งที่ 2 แถมยังตัดผ่านเมืองเมลเบิร์น และ Twelve Apostles ที่ขึ้นชื่อเรื่องโขดหินชายหายที่สวยงามที่สุดในออสเตรเลีย รวมถึงชายหาดอื่นๆ ที่เป็นที่รักของเหล่านักเซิร์ฟ ทางด้านคนรักธรรมชาติก็สามารถชื่นชมความหลากหลายทางชีวภาพได้ตลอดเส้นทางนี้เช่นกัน

[12]
THROUGH BOLIVIA ROUTE
BOLIVIA
Titicaca – Laguna Verde
ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางในอเมริกาใต้ที่สวยจนลืมหายใจ เดินทางจากตอนเหนือสู่ตอนใต้ของประเทศโบลิเวีย มีไฮท์ไลท์คือ Salar de Uyuni ทะเลสาบเกลือสีขาวขนาดยักษ์ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้ขับรถเข้าไปอีกโลกหนึ่ง เพราะเราจะเห็นวิวสะท้อนของท้องฟ้ากว้างสุดลูกหูลูกตาเหมือนขับรถอยู่บนกระจก หรือแม้กระทั่งตอนกลางคืนที่ทะเลสาบเกลือสะท้อนแสงจันทร์สีนวล ที่ใครได้เห็นย่อมไม่มีวันลืม
นอกจากนั้นในโบลิเวียยังมีแหล่งความงามทางธรรมชาติที่รอให้ไปค้นพบอีกมากมาย ซึ่งอีกหนึ่งวิวที่ไม่ควรพลาดก็คือฝูงนกฟลามิงโกที่หากินในทะเลสาบติดกับภูเขาทรายสีส้ม-น้ำตาล ที่ควรอย่างยิ่งกับการไปดูด้วยตาตัวเอง

[13]
THE ROAD TO HANA
HAWAII
Maui
Hana คือเมืองเล็กๆ ในฮาวาย การจะไปที่นั่นต้องขับผ่านเส้นทางเล็กๆ ทะลุป่าฝนเขตร้อนและแนวภูเขาเข้าไป มีวิวน้ำตกให้ลงไปเล่นน้ำได้แบบชิลล์ๆ ชมวิวหมู่บ้าน Wailua Valley ที่ให้อารมณ์เหมือนไปผจญภัยในจูราสสิกปาร์ค แถมด้วยชายหาดสีดำอย่าง Honomamu และชายหาดสีแดง Red Beach ที่ถูกขนานนามว่าดาวอังคารบนผืนโลก รวมถึงชายหาด Hamoa ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในหาดที่ดีที่สุดในฮาวายด้วย

[14]
THE GARDEN ROUTE
SOUTH AFRICA
Mossel Bay – Tsitsikamma
แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของแอฟริกาใต้ ที่พาพวกเราหลุดจากฟีลของทุ่งแห้งแล้ง โลกซาฟารีอย่างภาพจำที่มักเห็นในสารคดี เพราะ Garden Route เป็นเส้นทางเลียบชายฝั่งสุดสวยงามทางแถบที่ชาวตะวันตกเข้าไปพัฒนาบ้านเมืองตั้งแต่ยุคอาณานิคม ทัศนียภาพที่ผ่านก็มีตั้งแต่ป่าโปร่ง ป่าฝน ชายหาดหินสีดำแห่งเมืองเคปทาวน์ ที่มีบรรยากาศสวยเกินใคร แถมนอกจากสัตว์ท้องถิ่นที่คุ้นตากันแล้ว ยังมีฝูงนกกระจอกเทศ และฝูงนกเพนกวินตัวจิ๋วให้ชมกันอีกด้วย

[15]
KARAKORAM HIGHWAY
CHINA
China – Pakistan
นับเป็นถนนที่อยู่สูงที่สุดในโลก ทอดยาวจากประเทศจีนสู่ปากีสถาน ตัดผ่านเนปาล ภูฏาน ธิเบตที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมสวยงามแบบพุทธศาสนานิกายมหายาน ชุดพื้นเมือง ทิวธงสุดสวย กับทัศนียภาพแบบที่ราบสูงใกล้ๆ กับหลังคาโลก เป็นอีกหนึ่งการผจญภัยที่มีความท้าทายรออยู่มากมาย

[16]
MONGOL RALLY
EAST ASIA
12 Countries
นี่น่าจะเป็นการผจญภัยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต หากคุณไปตามเส้นทางนี้โดยเริ่มต้นจากลอนดอนมาทางตะวันออกเรื่อยๆ จนถึงมองโกเลีย อาจจะเป็นทริปที่ยาวนานสักหน่อย แต่นี่คือการแกะรอยตามเส้นทางการแสวงโชคของชาวตะวันตกยุคโบราณ ผ่าน 12 ประเทศที่มีวัฒนธรรมและความสวยงามทางธรรมชาติให้ชมแตกต่างกันตลอดทาง ทั้งยังผ่านทะเลทรายโกบีที่แม้จะโหดหิน แต่การได้ชมวิวผ้าจรดทรายเคียงข้างฝูงอูฐ ก็ไม่ใช่เรื่องที่หาชมกันได้ง่ายๆ