10 กิจกรรมน่าทำในเชียงราย

Posted on

นักท่องเที่ยวจำนวนมากมองว่าเชียงรายเป็นจังหวัดที่เงียบสงบและไม่มีอะไรให้ทำนอกจากไปเดินเที่ยวบนภูเขาและเยี่ยมชมหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆ โดยเฉพาะพื้นในที่เมืองนั้นก็ถูกมองว่าไม่ควรเสียเวลาไปเที่ยวชมเลยด้วยซ้ำ ในแต่ความเป็นจริงนั้นเชียงรายมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก โดยมีการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเป็นธีมหลักเราจะพบว่าการเที่ยวชมธรรมชาติคือกิจกรรมหลักในการท่องเที่ยวของจังหวัดนี้

ในขณะที่ดอยแม่สลองและสามเหลี่ยมทองคำเป็นสถานที่เหมาะแก่การเดินป่ายามค่ำคืนหรือเหมาะแก่การไปค้างคืนที่หมู่บ้านชนเผ่ามากที่สุด แต่เราไม่จำเป็นต้องไปไกลขนาดนั้นถ้าอยากผจญภัย น้ำแม่กกคือสถานที่เหมาะแก่การผจญภัยเพราะมีน้ำตกซ่อนอยู่ , มีน้ำพุร้อน , ถ้ำและหมู่บ้านชนเผ่าซึ่งอยู่ใกล้กับเมือง เรายังสามารถเช่าเรือหางยาวและกำหนดจุดหมายในการท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหนก็ได้ นอกนั้นยังมีทางเลือกอื่นอีกเช่นการไปสนามกอล์ฟ , สปา , ปั่นจักรยานและการไปเที่ยววัด เป็นต้น และอย่างที่ทราบกันดีว่าสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่นั้นตั้งอยู่ห่างกัน การใช้บริการเช่ารถเชียงรายจึงอำนวยความสะดวกได้มากกว่าการใช้บริการรถสาธารณะ

1.ไปเที่ยวถ้ำ

ถ้าหากคุณผู้อ่านไม่ได้กลัวความมืดและชอบเดินในสถานที่ซึ่งเราไม่คุ้นเคย ถ้างั้นลองไปเที่ยววัดถ้ำพระได้เลย (ยังมีอีกชื่อเรียกว่าวัดถ้ำปลาและวัดลิงเพราะว่ามีลิงเยอะมาก) เป็นถ้ำที่อยู่ห่างจากอำเภอแม่สายประมาณ 13 กม. ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงชัน ข้างหลังอาคารหลักของวัด เราต้องเดินขึ้นบันได 200 ขั้นและจะได้พบกับกำแพงหินย้อยอันงดงามที่ประดับไปด้วยใบไม้สีเขียวทั้งสองข้างทาง

ข้างในถ้ำนั้นมืดสนิท ในห้องโถงใหญ่ทั้งสองห้องจะมีรูปภาพพระพุทธเจ้าที่ถูกประดับด้วยลูกปัดสไตล์เมียนมาร์ และทางปลายอีกด้านหนึ่งจะมีขั้นบันไดรอเราอยู่ เมื่อขึ้นไปแล้วเราจะได้ชมวิวทั่วบริเวณป่าที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย , เมียรมาร์และลาว (สามเหลี่ยมทองคำ) บริเวณที่ติดอยู่กับเชียงรายคือถ้ำพระ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกกเราสามารถนั่งเรือหางยาวจากท่าเรือซี.อาร์.พอเข้าไปข้างในจะเป็นเขตวัดซึ่งมีรูปภาพโบราณของพระพุทธเจ้ามากกว่า 80 รูป

2.นั่งรถรางเที่ยวเมือง

หากเราไปเที่ยวเชียงรายในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคมละก็ อยากให้ทุกคนลองนั่งรถรางซื้อจะพาเราไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้ถึง 9 แห่ง คือ อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง , วัดพระสิงห์ , วัดพระแก้ว , วัดดอยงามเมือง , วัดพระธาตุดอยจอมทอง , หอนาฬิกาเชียงราย , สวนแม่ฟ้าหลวง , ก่อนที่จะวนรอบกลับมาที่อนุเสาวรีย์เราจะลงที่จุดไหนก็ได้ที่เราต้องการ ที่สำคัญคือรถรางเปิดให้บริการฟรีนะครับ

เวลาเปิดให้บริการ : 09:00, 09:30, 13:00 และ 13:30 ของทุกวัน

สถานที่ : อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช

3.การปั่นจักรยาน

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้ชมวิถีชีวิตในชนบทก็คือการปั่นจักรยาน การพักในย่านเมืองคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของนักปั่นจักรยานเพราะว่าถนนในเมืองนั่นเรียบและปลอดภัย นักปั่นจักรยานที่มีความจริงจังจะได้พบกับการผจญภัยด้วยการปั่นจักรยานขึ้นเขาและเที่ยวป่า , ลุยถนนลูกรัง , ข้ามสะพานไม้และปั่นจักรยานขึ้นเนิน  การปั่นจักรยานตอนกลางคืนจะมีความท้าทายมากที่สุดและอาจใช้เวลา 2-5 วันหรือนานกว่านั้นหากเราต้องการ เราจะได้ชมวิวสวยๆและไปเที่ยวชมสามเหลี่ยมทองคำ , ปางช้างและเที่ยวหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆ

4.การตีกอล์ฟ

บรรยากาศที่เหมาะกับพักผ่อนของเชียงรายและความสวยงามของภูเขาอันกว้างใหญ่ นั้นเหมาะสำหรับการตีกอล์ฟเป็นอย่างยิ่ง เมื่อออกไปยังสนามกอล์ฟก็จะมีแต่เรา , ลูกกอล์ฟและเสียงธรรมชาติเท่านั้น

เชียงรายมีสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดสองแห่งคือ สันติบุรี คันทรีคลับ ถูกออกแบบโดยนักออกแบบสนามกอล์ฟสองคนคือ “Robert Trent Jones และ Waterford Valley” ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่เต็มไปด้วยป่า สนามกอล์ฟ 18 หลุมซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง 20 นาทีแห่งนี้คือสนามกอล์ฟที่ดีที่สุด นำเสนอหลุมกอล์ฟ 8 หลุมที่มีเส้นทางราบเรียบมีบ่อน้ำเป็นสิ่งกีดขวางและ อีก 8 หลุมซึ่งอยู่ในบริเวณที่มีพื้นเป็นคลื่นยาว

ถัดมาคือสนามกอล์ฟวอเตอร์ฟอร์ดวัลเล่ย์ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง 45 นาที เป็นสนามกอล์ฟที่มีวิวภูเขาสีเขียวและยังถูกยกให้เป็นสนามกอล์ฟที่มีความสวยงามมากที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย

5.การไปเที่ยวหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆ

เชียงรายมีหมู่บ้านชนเผ่าถึง 6 แห่งและเหมาะแก่การค้างคืนบนเขามากด้วย หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือไปติดต่อผ่านทางสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ซึ่งมีการจัดทัวร์เป็นจำนวนมากมีทั้งแบบครึ่งวันไปจนถึงสามวัน และมีหลายโปรแกรมที่จะให้เราได้นั่งบนหลังช้างและขึ้นเรือหางยาวพร้อมทั้งได้พักค้างคืนที่หมู่บ้านชนเผ่าซึ่งเราก็จะได้ไปเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของพวกเขา สำหรับรายได้ทั้งหมดทางทางสมาคมจะเอาไปใช้ช่วยเหลืองานการกุศลต่อไป

6.ไปเที่ยวแม่น้ำกก

แม่น้ำกกมีความยาว 130 กิโลเมตร ตัดผ่านเชียงรายจากทางทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก เป็นแม่น้ำที่มีวิวสวยงามมากมีแหล่งต้นน้ำมาจากบ้านท่าตอนในเชียงใหม่และตัดผ่านภูเขา , ดงกล้วยไกลสุดลูกหูลูกตา ผ่านหมู่บ้านชนเผ่าและบ่อน้ำพุร้อน การเดินทางจากบ้านท่าต้นมายังเชียงรายนั้นต้องใช้เวลา 4 ชั่วโมงโดยใช้เรือยาว ซึ่งเราสามารถเดินทางรวดเดียวจนถึงหรือจะแวะลงเดินป่าตอนกลางคืนเพื่อไปแวะเที่ยวที่หมู่บ้านชนเผ่าและแช่บ่อน้ำพุร้อน หรือถ้าใครที่มีเวลาน้อยหรืออยากเลือกเส้นทางด้วยตัวเองจะใช้วิธีนั่งเรือในช่วงระยะทางสั้นๆก็ได้นะครับ

ช่วงเวลาเปิดทำการ : หกโมงครึ่งจนถึงบ่ายสี่โมงครึ่ง

สถานที่ : ท่าเรือ ซี.อาร์. สะพานแม่ฟ้าหลวง

วิธีการเดินทาง : จ้างสองแถวหรือเช่ามอเตอร์ไซค์

7.ไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน

มันไม่เหมือนกับบ่อน้ำพุร้อนในญี่ปุ่นก็จริงแต่การได้แช่บ่อน้ำพุร้อนที่นี่ก็สามารถสร้างความผ่อนคลายไปแบบสุดๆเช่นกัน ทั้งยังได้ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเชียงรายไปด้วยซึ่งจะทำให้เรารู้สึกอยากกลับมาอีกแน่นอน น้ำพุร้อนที่อยู่ใกล้เมืองเชียงใหม่มากที่สุดคือน้ำพุร้อนโป่งพระบาทซึ่งอยู่ห่างออกไป 7 กิโลเมตร มีอุณหภูมิ 48-50 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่ร้อนมากพอที่จะใช้ต้มไข่ได้ (กิจกรรมยอดนิยมที่คนชอบทำเวลาไปน้ำพุร้อน) เราสามารถเช่าห้องพักที่นี่และผ่อนคลายไปกับการเดินป่าขึ้นไปน้ำตกโป่งพระบาท แต่ถ้าหากชื่นชอบความเป็นธรรมชาติละก็ให้ลองแวะไปที่บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยมและบ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง 20 กิโลเมตร ซึ่งเราสามารถแช่และต้มไข่ ทั้งยังสามารถเดินเที่ยวชมบรรยากาศในบริเวณภูเขารอบๆได้อีกด้วย

8.ไปสปา

มีประสบการณ์ดีๆมากมายรอคอยผู้ที่ชื่นชอบการเข้าสปาและผู้ที่เดินทางมาเพื่อการพักผ่อนโดยเฉพาะ เราอาจจะได้เจอกับสปาที่มีเทียนหอมเต็มไปหมด , มีดอกลีลาวดีลอยเต็มอ่างน้ำ , และได้รับเครื่องดื่มสมุนไพรหลังจากทำสปาเสร็จแล้ว หรืออาจจะไปแวะร้านค้าใจกลางเมืองสักพักนึงก็ได้ ในโรงแรมและรีสอร์ทหรูส่วนใหญ่จะมีสปาคอยให้บริการ และถ้าหากอยู่ติดริมแม่น้ำกกด้วยก็จะทำให้เราได้ดื่มด่ำกับวิวข้างแม่น้ำอันงดงาม

9.การเดินป่าและขี่หลังช้าง

พบกับป่าและน้ำตกหลายชั้น , เส้นทางสุดลูกหูลูกตาและความรู้สึกของการได้ค้นพบ ซึ่งนั่นก็ทำให้การเดินป่าเป็นกิจกรรมที่น่าผจญภัยที่น่าลองมากที่สุด เราสามารถเดินเท้าไปตามเส้นทางในป่าหรือจะขี่ช้างเพื่อออกเดินทางไปยังดอยแม่ฟ้าหลวง , แม่สลอง และบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เราสามารถใช้บริการทัวร์ยามค่ำคืนได้ที่รีสอร์ทและเกสเฮ้าส์เกือบทุกแห่งในเมือง ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการพาเราไปเที่ยวชมหมู่บ้านชนเผ่า 1-2 แห่ง , ล่องแพไม้ไผ่ และแช่น้ำพุร้อนหรือน้ำตกก็ได้หากว่าเราต้องการ

10.การไปเที่ยวน้ำตก

น้ำตกส่วนใหญ่ในจังหวัดเชียงรายจะตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ห่างออกไป 17 กม.จากทางทิศตะวันตกของใจกลางเมืองน้ำตกขุนกรณ์คือน้ำตกที่มีความสูงมากที่สุดและพูดกันว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของจังหวัดเชียงราย ด้วยความสูง 70 เมตร น้ำตกจะพุ่งลงมาอย่างรุนแรงทำให้เกิดหมอกกระจายไปได้เป็นรัศมีถึง 10 ไมล์ การเดินป่าไปยังน้ำตกถือเป็นไฮไลท์หลักอย่างหนึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาเดินเท้า 45 นาทีเป็นระยะทาง 1.2 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเดินป่าที่ตัดผ่านแอ่งน้ำและสะพานไม้ไผ่หลายแห่ง

นอกจากนี้ยังมีน้ำตกห้วยแม่ซ้ายซึ่งมีขนาดตรงกันข้ามกับน้ำตกขุนกรณ์แต่มีความสวยงามไม่แพ้กัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ของชาวอาข่าและชาวลาหู่ ห่างจากตัวเมืองทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 19 กิโลเมตร น้ำตกสองชั้นแห่งนี้มีบ่อน้ำตกให้เราไปแช่น้ำเล่นได้และเป็นสถานที่ขี่ช้างในอุดมคติเลย

บริการเช่ารถเชียงรายราคาถูกพร้อมให้บริการทุกท่านแล้ววันนี้!