สำหรับใครที่กำลังอยากจะหาพื้นที่สงบๆเพื่อเที่ยวพักผ่อน น่าน อาจจะเป็นอีกหนึ่งจังหวัด ที่คุณต้องไปเยือน ด้วยความเงียบสงบ ที่เหมาะกับการพักผ่อนของจังหวัดน่าน รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่จะทำให้คุณสนุก และมีความสุขกับจังหวัดนี้ เชื่อได้เลยว่า ทริปพักผ่อนของคุณจะเป็นทริปในสวรรค์เชียวละ แต่จะไปเที่ยวน่านทั้งที วันนี้ Drivemate มี 10 เรื่องควรรู้ ก่อนที่คุณจะไปเที่ยวน่านมาฝาก เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับตัวคุณ ก่อนออกเดินทาง
1.จะเที่ยวน่านทั้งที จังหวัดน่านอยู่ที่ไหนนะ?
จังหวัดน่านเป็นพื้นที่ชนบทในภาคเหนือของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 688 กม. ขึ้นชื่อในเรื่องของภูมิทัศน์ที่สวยงามและมีย่านชนบทที่สวยงาม ในอดีตเมื่องน่านเคยมีชื่อว่านันทบุรี เคยเป็นนครรัฐขนาดเล็กมาก่อน และมีการสร้างถนนเชื่อมต่อกับทั่วประเทศไทยในช่วงยุค 80s ถ้าใครสนใจเที่ยวน่าน ก็นับว่าเป็นจังหวัดแหล่งวัฒนธรรมที่ดีเยี่ยมทีเดียว
2.การเดินทางไปเที่ยวน่าน
ถึงแม้ว่าเราจะสามารถเดินทางมาได้ด้วยการขึ้นรถบัสในกรุงเทพ แต่มันก็จะเป็นระยะทางที่ไกลมากและต้องใช้เวลาในการเดินทางมากถึง 11 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่วิธีการเดินทางที่ง่ายและสะดวกที่สุดก็คือการใช้สายการบินนกแอร์ ซึ่งเปิดให้บริการทุกวันที่สนามบินดอนเมือง
3.สภาพอากาศ
จะไปเที่ยวน่าน ในเรื่องของสภาพอากาศ ก้อเป็นสิ่งสำคัญ โดยในภาคเหนือของประเทศไทย จะมีสภาพอากาศสามแบบ ช่วงที่มีอากาศเย็นมากที่สุดจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ และช่วงที่มีอากาศร้อนมากที่สุดคือช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน และจะเป็นฤดูฝนในช่วงกรกฎาคม-ตุลาคม
ช่วงฤดูหนาว : ช่วงนี้จะมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 25 องศา ช่วงเวลากลางคืนและตอนเช้าจะมีอุณหภูมิ 15 องศา และในชนบทตอนที่อากาศเย็นสุดๆ จะมีอุณภูมิ 10 องศา และบางครั้งจะพบว่ามีน้ำแข็งบนภูเขาอีกด้วย
ช่วงฤดูร้อน : สามารถร้อนได้ถึง 40 องศาเลยทีเดียว และในตอนกลางคืนจะไม่มีวันที่อุณภูมิจะต่ำกว่า 25 องศา
ช่วงฤดูฝน : จะมีอุณหภูมิสูงสุดที่ 30 องศา และในช่วงเย็นจะมีอากาศร้อนหรือเย็นมันก็แล้วแต่ว่าจะมีฝนตกหรือไม่ ในฤดูฝนจะเป็นช่วงที่มีอากาศชื้นมาก
ก็เลือกกันดูนะคะ ว่าคุณสนใจจะไปเที่ยวน่าน กันในช่วงไหน แต่ แอบกระซิบว่า ในช่วงฤดูหนาว เที่ยวน่านฟินมาทีเดียวค่ะ
4.สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดน่าน
จังหวัดน่านเต็มไปด้วยวัดสวยงามเช่น วัดพระธาตุแช่แห้ง , วัดมิ่งเมือง และวัดภูมินทร์ซึ่งมีความสวยงามมาก ซึ่งเราสามารถเดินทางไปวัดเหล่านี้ได้ด้วยการเดินเท้า และถ้าหากว่าคุณเป็นคนรักงานศิลปะ ก็ยังมีหอศิลป์น่านริเวอร์ไซด์ซึ่งเป็นสถานที่รวมผลงานของศิลปินในท้องถิ่น แต่ถ้าหากต้องการศึกษาประวัติศาสตร์น่านก็ขอแนะนำให้ไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
5.อาหารในจังหวัดน่าน
อาหารในจังหวัดน่านเป็นอาหารล้านนา และเมนูยอดนิยมที่สุดก็คือข้าวซอย ซึ่งเป็นแกงกะทิในเส้นหมี่ไข่กรอบ และอีกเมนูที่ต้องลองกันให้ได้ก็คือขนมจีนน้ำเงี้ยว (เส้นขนมจีนและแกงที่ทำจากเนื้อหมูและมะเขือเทศ) . ไส้อั่ว (เมนูไส้กรอกของภาคเหนือ) , ข้าวกั้นจิ้น (ข้าวเงี้ยว) ซึ่งสามารถไปลองทานได้ที่ร้านอาหารชื่อวันดาในเขตเมือง
จังหวัดน่านยังเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตกาแฟที่ดีที่สุดของประเทศไทยอีกด้วย และก็มีร้านกาแฟดีๆอยู่ทั่วเมืองเลย ร้านที่ทีมงานชอบคือร้าน “Cafe Soodgongdee” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำน่าน ร้านนี้ขายกาแฟ , ขายอาหารเมนูอาหารตะวันตกและอาหารไทยเป็นร้านที่ดูเล็กเมื่อมองจากภายนอกแต่เมื่อเข้าไปแล้วจะพบว่ามีพื้นที่กว้างขวาง และยังมีโต๊ะวางอยู่กลางแจ้งสำหรับผู้ที่ต้องการนั่งชมแม่น้ำน่าน
6.กิจกรรมในท้องถิ่น
อำเภอเชียงกลาง
ถ้าไปเที่ยวอำเภอเชียงกลางเราก็จะสามารถใช้จักรยานปั่นชมวิวในหมู่บ้านใกล้แม่น้ำน่านได้ ทั้งอำเภอจะเต็มไปด้วยพื้นที่ธรรมชาติอันสวยงาม ถ้าหากเพื่อนๆชอบออกจากเมืองไปเที่ยวในชนบทล่ะก็ที่นี่แหละใช่เลย และในระหว่างเดินทางกลับเข้าเมืองอย่าลืมแวะเยี่ยมชมวัดภูเก็ตซึ่งตั้งอยู่บนหุบเขาสามารถมองลงมาเห็นวิวทุ่งนาข้าว , ป่าไม้และภูเขาเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา
ตำบล น้ำมวบ
ตำบลน้ำมวบตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งเหมาะแก่การมาเยี่ยมชมวิถีชีวิตในหมู่บ้าน ทั้งยังมีการสอนทำอาหารไทยโดยใช้วัตถุดิบจากในป่า , สอนสานตระกร้าไม้ไผ่ , สอนเกี่ยวข้าว
ไปดูผลงานสิ่งทอของเผ่าม้ง
สิ่งทอของเผ่าม้งเป็นผ้าสีน้ำเงินที่มีลวดลายสวยงาม ซึ่งผลิตขึ้นมาจากการทอผ้าแบบเรียบง่ายหลังจากนั้นก็จะมีการวาดลวดลายสวยงามลงไปโดยใช้เทียนเหลว เราสามารถมาเรียนรู้วิธีการวาดลวดลายของเผ่าม้งและสร้างผลงานของตัวเองขึ้นมาได้ที่บ้านของลุงวิชัย
การท่องเที่ยวน่าน แถมยังได้ ทำกิจกรรมในจังหวัดน่าน ก็นับว่าเป็นการท่องเที่ยวอีกหนึ่งรูปแบบที่ให้ทั้งความสนุก และความสุข จริงไหมละคะ?
7.ภาษา
อักษรล้านนานั้นเป็นทายาทของอักษรมอญโบราณเช่นเดียวกับอักษรลาวและอักษรเมียนมาร์ ถูกใช้ในการเขียนภาษาล้านนา (คำเมือง) นอกจากนี้ยังใช้ในพิธีการทางศาสนาเช่นการเขียนอักษรธรรมลาว ซึ่งเราสามารถพบตัวอักษรต้นฉบับโบราณได้ในวัดที่อยู่ในภาคเหนือ
ภาษาล้านนาเป็นญาติสนิทกับภาษาไทยและภาษาในตระกูลเชียงแสน ในปัจจุบันยังมีคน 6 ล้านคนที่ใช้ภาษาล้านนาในภาคเหนือของไทยและอีกนับพันคนในประเทศลาวแต่เวลาเขียนเขาจะเขียนออกมาโดยใช้อักษรไทย
8.การเดินทางภายในจังหวัดน่าน
ที่นี่แทบจะไม่มีรถประจำทางหรือรถโดยสารเลย จึงมีความจำเป็นในการเช่ารถทันทีที่เราเดินทางมาถึงสนามบิน หรือไม่ก็ต้องจ้างคนขับรถมาคอยพาเราเดินทางตลอดช่วงเวลาในการท่องเที่ยว ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง เลือกใช้บริการ เช่ารถน่าน ราคาถูกกับ Drivemate รับรองว่าจะช่วยให้คุณเที่ยวน่านสนุกมากขึ้น
9.งานเทศกาลท้องถิ่น
งานประเพณีแข่งเรือจังหวัดน่าน
จะมีการจัดงานนี้ขึ้นทุกปีในช่วงเดือนกันยายนจนถึงเดือนตุลาคม ในตอนที่ระดับแม่น้ำเพิ่มจนถึงระดับสูงสุด เรือจะถูกสร้างจากไม้ยาวและแต่ละลำจะสามารถจุฝีพายได้ถึง 60 คน โดยปกติแล้วพวกเขาจะใส่เสื้อสีเดียวกัน งานแข่งเรือสามารถดึงดูดผู้ชมได้จากทั่วประเทศ ทีมที่ชนะก็จะได้รับถ้วยรางวัลไป
เทศกาลดอกชมพูภูคาบาน
เป็นเทศกาลที่ถูกสร้างมาเพื่อนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมไทลื้อและได้มาเที่ยวชมดอกชมพูภูคาบานไปด้วย กิจกรรมในงานเทศกาลก็จะมีการแสดงของชาวไทลื้อ , การแสดงแสง สีและเสียง , มีตลาดขายสินค้าท้องถิ่นในบริเวณที่ว่าการอำเภอปัว
10.ควรพักในจังหวัดน่านนานแค่ไหนดี
เพื่อที่จะได้สำรวจจังหวัดน่านอย่างเต็มที่โดยไม่รีบร้อนจนเกินไป เราขอแนะนำให้ใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน/2 คืน ในเมือง และ 5 วัน/4 คืน ในย่านชนบท ซึ่งภายในจังหวัดน่าน ก็มีที่พัก หรือโรงแรมในจังหวัดน่าน ที่สวยๆมากมาย ให้คุณได้เปิดใช้บริการ แบบนี้แหละที่จะช่วยให้เราได้รับประสบการณ์ทุกอย่างในจังหวัดน่าน
10 เรื่องควรรู้ก่อนเที่ยวจังหวัดน่านที่ Drivemate นำมาฝาก คงช่วยให้ทริปการเดินทางเที่ยวจังหวัดน่านของคุณ สนุก มีความสุข และวางแผนเที่ยวได้ดียิ่งขึ้นนะคะ ที่สำคัญหากคุณต้องการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทางของคุณ อย่าลืมเลือกใช้บริการ เช่ารถน่าน แล้วทริปน่านของคุณจะสนุกกว่าเดิม เชื่อเราสิ!