10 หนังแอ็คชั่นที่ดูแล้วจะทำให้คุณอยากจะออกจากบ้านมาจับพวงมาลัยรถ !

Posted on

 

เคยไหมนั่งดูภาพยนตร์อยู่ดี ๆ แล้วเกิดอาการอยากเลียนแบบทำตาม ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับชีวิตคนประสบความสำเร็จแล้วรู้สึกอยากจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น หรือจะเป็นหนังภาพยนตร์แข่งรถที่ดูแล้วรู้สึกคัน ๆ อยากจะเอาเท้าไปสัมผัสกับคันเร่ง

ซึ่งในโลกภาพยนตร์เองก็มีหนังมากมายที่หยิบยกเอารถยนตร์มาเป็นจุดขายของเรื่อง ดังนั้น Drivemate จึงได้นำหนังแอ็คชั่นเกี่ยวกับเรื่องรถ ๆ มาฝาก เพื่อใครดูแล้วจะอยากออกไปขับรถเล่นชิว ๆ ตาม

 

 

Fast & Furious

ตำนานหนังแข่งรถที่แม้ปัจจุบันจะกลายเป็นหนังแอ็คชั่นไปเสียแล้ว แต่เราเชื่อว่าทุกคนยังติดภาพจำว่ามันเป็นหนังแข่งรถ ที่คอรถยนตร์คงไม่เคยพลาดชม เพราะถ้าว่ากันตามความจริงแล้ว Fast & Furious ถือเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นแข่งรถที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้

ภาพยนตร์ชุด Fast ที่ตอนแรกจะออกไปแนวหนังทุนต่ำ แต่ทำไปทำมากลายเป็นซีรีส์ที่ทำเงินมหาศาลจนผู้สร้างค่อย ๆ เพิ่มงบจนเอารถมาระเบิดทิ้งขว้าง รวมแล้วกว่า 8 ภาค  ซึ่งในแต่ละภาคก็จะมีรถสวย ๆ ออกมาให้เราชมกัน อย่างเช่นภาคแรกจะรถญี่ปุ่นในตำนานอย่าง Toyota Supra หรือภาคที่พีคสุด ๆ อย่าง Tokyo Dritf เองก็มีรถอย่าง  Mazda RX-7 , Mitsubishi Evolution , Nissan Fairlady 350z ออกมาโชว์ให้เห็น แถมก็มีรถยุโรปที่แสนโด่งดังออกมาอีกมากมาย เรียกได้ว่าใครชอบรถ หรือแต่งรถ ต้องไม่พลาด

 

 

The Transporter

ต่อจาก Fast & Furious ภาพยนตร์ขับรถที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคงหนีไม่พ้นเรื่อง The Transporter หนังแอ็คชั่นขับรถสุดมันส์ที่ได้พระเอกสุดระห่ำอย่าง Jason Staham มารับบทคนขับรถมาดขรึมพูดน้อยต่อยหนัง

ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีออกมาได้แล้วด้วยกันถึง 4 ภาค สำหรับเรื่องราวโดยย่อของ The Transporter จะเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวของพระเอกที่ต้องรับจ้างส่งของโดยของสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ได้โดยเจ้าตัวจะห้ามสอดรู้สอดเห็นเกี่ยวกับสิ่งของนั้นเป็นอันขาด ซึ่งแลกกับค่าจ้างที่สูงลิ่ว แต่เรื่องก็เกิดขึ้นเมื่อเขาได้รับว่าจ้างให้ขนอะไรแปลก ๆ และแน่นอนว่าเมื่อเป็นของแปลกก็ต้องมีคนตามหาเช่นกัน ทำให้จะต้องมีฉากขับรถไล่ล่าเป็นธรรมดา ดังนั้นคนดูก็จะได้เห็นรถซิ่งกันสนุก ๆ

 

 

TAXI

ภาพยนตร์จากฝรั่งเศษเรื่องนี้ที่เริ่มฉายภาคแรกเมื่อปี ค.ศ.1998 ทำไปทำมาก็สามารถผลิตออกมาได้ทั้งหมดแล้ว 4 ภาค เนื้อเรื่องแม้จะดูง่ายเหมือนจะไม่มีอะไร เพียงเล่าเรื่องผ่านรถแท็กซี่หนึ่งคัน  แต่เอาเข้าจริงแล้วภายในหนังคุณจะรู้สึกสนุกไปกับรถแท็กซี่ที่ถูกปรับแต่งให้เป็นรถแข่งแบบย่อม ๆ แถมสุดท้ายผู้โดยสารรวมถึงคนดูจะต้องมานั่งร่วมชะตาไปกับตัวเอกที่เป็นคนขับแบบสุดฮา แถมพระเอกก็หน้าตากวนโอ๊ยโดนใจเหลือเกิน แต่ยังไม่ทิ้งความเป็นหนังแอ็คชั่นอยู่ สำหรับรถที่พระเอกในเรื่องใช้คือ Peugeot 406 ใน 3 ภาคแรก ก่อนที่ต่อมาในภาค 4 จะเปลี่ยนเป็นรุ่น 407

 

 

The Italian Job

สาวกมินิคูเปอร์ (MINI) ไม่ควรพลาด เพราะว่าหนังเรื่องนี้จะใช้รถขนาดเล็กน่ารักต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษเป็นรถหลักประจำเรื่อง ซึ่งหนังก็จะเกี่ยวกับการโจรกรรมอีกเช่น ทำให้เราจะได้เห็นว่าสมรรถนะของรถมินินั้นดีขนาดไหน เห็นเล็ก ๆ อย่างนี้แต่ซิ่งได้ดีไม่เบาเลยทีเดียว คิดว่าหลังจากดูจบ คงมีใครหลายคนเดินไปศูนย์รถเพื่อคว้าเอาเจ้ามินินี้เป็นเพื่อนคู่ใจอย่างแน่นอน

เนื่องจากในหนังเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่ารถมินิคูเปอร์สามารถซิ่งได้ขนาดไหน เพราะไหนจะการขับลงท่อระบายน้ำ ขับลงบันได ขับลงลางรถไฟ และอีกมาก แถมขับกันเป็นทีม เห็นแบบนี้แล้วเลยจะไม่เทใจกับเจ้ามินิคูเปอร์ได้อย่างไร แต่ก็ไม่ต้องถึงขั้นกราบรถกันนะครับ

 

 

Gone in 60 Seconds

จัดเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่คอแอ็คชั่นไม่ควรพลาด เพราะเรื่องราวของพระเอกที่เป็นอดีตสุดยอดหัวขโมยรถยนต์มือพระกาฬที่ได้วางมือไปแล้ว แต่แล้วกลับมีเรื่องให้ก็ต้องกลับมาขโมยอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือน้องของตัวเอง ซึ่งภารกิจในครั้งนี้ถือว่าเป็นงานสุดหิน เมื่อเขาต้องขโมยรถถึง 50 คันภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง และจากชื่อหนังทำให้คนดูน่าจะพอเดาได้ไม่ยากว่าพระเอกของต้องขโมยรถหนึ่งคันได้ภายในระยะไม่เกิน 60 วินาที

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่นอกเหนือการโจรกรรมคือในหนังเรื่องนี้ คือรถแต่ละคันที่จะถูกถูกขโมยนั่นแหละ เรียกได้ว่าเป็นตัวท๊อปสวยทุกคัน และส่วนมากเป็นรถทางฝั่งยุโรปที่มีอยู่ไม่เยอะในโลก ดูแล้วก็แอบอิจฉากลุ่มของพระเอกที่ได้ขับรถสวยตั้ง 50 คัน คงจะดีไม่น้อยหากในมีสักครั้งในชีวิตหนึ่งเรามีโอกาสได้ลองขับรถแบบในหนัง คงได้อารมณ์สะใจดีไม่น้อย

 

 

Le Mans

หนังอเมริกาสุดคลาสสิคที่เคยฉายในปี 1971 แม้อาจไม่ได้เป็นหนังแนวแอคชั่นสุดโต่ง แต่ความมันส์และความตื่นเต้นถือว่าไม่เป็นสองรองใคร โดยเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่การแข่งรถ และรถที่เป็นตัวเอกของเรื่องอย่าง Porsche และ Ferrari นอกจากนี้การแข่งรถในภาพยนตร์ ถือเป็นการแข่งรถที่โด่งดังไปทั่วโลกในชื่อรายการ 24 heures du Mans ที่เหล่านักแข่งจะต้องมาขับรถกันไม่หยุด 24 ชม. เป็นการทดสอบสมรรถภาพของรถยนต์ รวมถึงการวางแผนของทีม ทำให้เสียงที่จะได้ยินในหนังจะเป็นเสียงเครื่องยนต์มากกว่าเสียงคนพูดด้วยซ้ำ ถ้าใครชอบเรื่องของยานยนต์ Le Mans เป็นหนังที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ซึ่งพอดูจบแล้วอาจจะทำให้คุณอยากขับรถออกไปฟังเสียงเครื่องยนต์ของจริง

 

 

Rush

หนังแข่งรถสูตรหนึ่ง F1 ที่อิงจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1970 นักวิจารณ์หลายคนยกให้เป็นหนังข่งรถที่ดี และตื่นเต้นเร้าใจที่สุด โดยหนังเล่าเรื่องราวของสองตำนานนักแข่งรถในยุค 70 ที่เป็นปีทองของวงการรถสูตรหนึ่งมีนักขับสองคนที่ผลัดกันแพ้ชนะไล่เลี่ยแข่งกันมาตลอดนั้นคือ James Hunt  และ Niki Lauda ทั้งสองมีทัศนคติ และแนวคิดที่แตกต่าง  ทำให้ต้องปะทะทั้งในสนาม และนอกสนาม แต่เส้นทางสู่ชัยชนะนั้นมีเพียงแค่คนเดียว เป็นหนังที่ดูแล้วให้ทั้งข้อคิดเกี่ยวกับการขับรถมากเลยไม่น้อยทีเดียว

 

 

Initial D

เรื่องนี้คนวัยประมาณ 20 ปลายน่าจะชื่นชอบกันเป็นอย่างดี เนื่องจากหนังทำมาจากการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งมีความเท่แบบเรียบง่าย แต่แหวกแนว ไม่ได้เน้นแต่งรถจัด แต่คนดูต้องลุ้นระทึกไปกับทุกการฉากการแข่งรถ โดยเฉพาะต้องมานั่งลุ้นว่ารถของพระเอกทาคุมิ อย่าง Toyota AE86 จะสามารถไปต่อกรกับรถแรง ๆ ได้หรือไม่

สำหรับเนื่องเรื่องคราว ๆ ก็คือ ทาคุมิจะต้องใช้รถคันที่ว่านั้นขับไปส่งเต้าหู้ข้ามภูเขาอะกินะทุกเช้า ซึ่งเป็นภูเขาที่วกวนปราบเซียนมานักต่อนัก และอยู่มาวันหนึ่งก็ได้มีเรื่องที่ให้เขาต้องไปแข่งขับรถกับทีมแข่งรถ ซึ่งก็เลยทำให้เราได้เห็นสุดยอดเทคนิคการขับรถทาคุมิ ที่ไม่แสดงให้เห็นว่าบางครั้งฝีมือก็สำคัญกว่าอุปกรณ์ นอกจากนั้นอีกหนึ่งจุดเด่นของเรื่อง คือผู้ชมจะได้เห็นรถแต่งสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่าง จากที่เราเห็นในหนังฝั่งฮอลีวู้ดมาโลดแล่นอยู่ในหนังเรื่องนี้

 

 

Need for speed

หลายคนคงจะคุ้นกับชื่อนี้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไปนึกถึงเกมส์แข่งรถสุดมันส์ที่ครองใจเด็ก ๆ ทั่วโลกมากก่อน ซึ่งอันที่จริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จัดได้ว่าสนุกเร้าใจไม่แพ้เกมส์ เพียงแต่ไม่ได้รับการพูดถึงและโปรโมตที่ดีเสียมากกว่า

โดยหนังจะเล่าเรื่อง โทบี้ มาร์แชล ช่างเครื่องผู้ใช้แรงงานที่อีกบทบาทนึงของเขาคือนักซิ่งที่ใช้ท้องถนนเป็นสนามแข่งขัน แต่ด้วยภาระที่จะต้องดูแลกิจการอู่ซ่อมรถข­องค รอบครัวให้คงอยู่ เขาจึงต้องจำใจร่วมงานกับ ไดโน่ บริวส์เตอร์ อดีตนักแข่งนาสคาร์ผู้ร่ำรวยและเย่อหยิ่ง แต่เพียงแค่ จูเลีย โบเนท พนักงานขายที่ผันตัวมาเป็นนายหน้าค้ารถยนต์เริ่มเห็นว่ามันจะช่วยรักษาอู่ของโทบี้ไว้ ได้ หายนะจากการแข่งขันก็เปิดโอกาสให้ ไดโน่ ใส่ร้าย โทบี้ สำหรับอาชญากรรมที่เขาไม่ได้ก่อ และทำให้เขาต้องติดคุก ในขณะที่ไดโน่ได้ขยายธุรกิจไปทางฝั่งตะวันตก พระเอกของเราจึงต้องกลับมาแก้แค้นคืน

ซึ่งหนังก็สามารถทำฉากแข่งรถ รวมถึงรถที่นำมาใช้ในฉาก ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแต่ไม่ถึงขั้นแต่งรถแบบในเกมส์ ดังนั้นใครที่ชอบหนังแข่งรถ ควรจัด Need for speed ไปอยู่ลิสต์ได้อีกหนึ่งเรื่อง

 

 

Getaway

จากหน้าหนังที่ได้ เซเลน่า โกเมซ และ อีธาน ฮ๊อคก์ มาเป็นนักแสดงคงจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจไม่เบา เพียงแต่มันอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่ทุกคนคิด เพราะหนังถูกสร้างขึ้นจากวิดีโอเกมส์เช่นกัน โดยจะโฟกัสกับฉากการขับรถทำภารกิจ ทำให้เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ดำเนินอยู่บนรถ

ซึ่งเรื่องย่อก็ประมาณว่าอดีตนักขับรถแข่งสุดบ้าระห่ำต้องพบกับเกมอันตรายเมื่อภรรยาของเขาถูกกลุ่มคนลึกลับลักพาตัวไป พร้อมกับถูกยื่นข้อเสนอให้เขาขโมยรถฟอร์ดเชลบี้ GT500 ซูเปอร์สเนคขับไปทำภารกิจต่างรอบเมืองในค่ำคืนนี้ โดยามเขาแจ้งตำรวจหรือถูกตำรวจจับเป็นอันขาด มิเช่นนั้นภรรยาของเขาจะถูกฆ่าทันที ซึ่งรถคันนี้ได้ถูกติดตั้งกล้องเพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวภายในรถตลอดเวลา ทั้งหมดนี้ทำให้เขาไม่มีทางเลือกจึงต้องจำใจขับรถไปทั่วเมืองเพื่อทำภารกิจให้ลุล่วง โดยมีสาววัยรุ่นรายหนึ่งมาร่วมชะตากรรมท้านรกครั้งนี้ไปด้วยกัน แต่ยิ่งทั้งคู่ใกล้ถึงจุดหมาย พวกเขาก็เริ่มรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้อาจจะมีแผนการใหญ่มากกว่าที่พวกเขาคาดคิด

หากตัดเรื่องบทที่เราว่าอาจจะทำได้ไม่ค่อยเนียนนัก แต่หากนับเฉพาะฉากแอ็คชั่นขับรถไล่ล่า ต้องบอกเลยเป็นหนังขับรถที่ดูเพลิน ๆ สุนุก ๆ เลยทีเดียว

 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของหนังแอ็คชั่นที่ดูแล้วคิดว่าน่าจะคันไม้คันมืออยากจะออกมาขับรถกัน ซึ่งนอกจาก 10 เรื่องนี้ ก็ยังหนังเกี่ยวกับขับรถอีกจำนวนไม่น้อย แต่  Drivemate รับรองว่า 10 เรื่องนี้ดูแล้วจะไม่ผิดหวัง

สุดท้ายแม้จะอินกับภาพยนตร์มากเพียงใดก็ตาม เราก็อยากจะขอให้ทุกท่านอย่าลืมถึงความปลอดภัยในการขับรถ ถึงแม้หนังที่นำมาแนะนำนี้อาจมีความซิ่งเกินพิกัดให้เราได้คันไม้คันมืออยากจะออกไปซิ่งบ้างก็ตาม แต่ยังไงสะความปลอดภัยบนท้องถนน และการเคารพกฎหมายก็เป็นสิ่งแรกที่เหล่าผู้ขับต้องคำนึงเป็นสำคัญที่สุด

 

เรียบเรียงโดย: Kittiya K.