เชื่อไหม? รถรัก 1 คัน ทำเราขาดทุนไปมากกว่า 800,000 บาท!

Posted on

 

รถยนต์สิ่งที่คนไทยหลายคนอยากมีไว้ครอบครองเป็นทรัพย์สินก่อนที่จะคิดซื้อบ้านซะอีก แต่หลายคนคงคิดไม่ถึงว่าปีนึงเราเสียเงินให้กับรถรักของเราไปมากเท่าไหร่?  บวกกับเวลาที่ผ่านไปพร้อมค่าเสื่อม ถ้าเมื่อตัดสินใจขายมันแทบไม่ได้อะไรเลย ในขณะที่บ้าน หรือคอนโดราคาขึ้นตลอด

วันนี้เรามาดูข้อมูลแบบละเอียดกันว่ารถ 1 คัน มาพร้อมกับเงินที่เสียไป ปีละเท่าไหร่ มาจากค่าอะไรบ้าง ?

1. เงินดาวน์

ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สุดในการซื้อรถ ยิ่งถ้าใครไปกู้บัตรเครดิตสินเชื่อต่าง ๆ
เพื่อถอยมาก่อนซึ่งจะยิ่งทำให้เสียดอกเบี้ยและเงินผ่อนมากยิ่งขึ้นโดยปกติจะอยู่ที่
15-30% ของมูลค่ารถ

สมมติว่ารถราคา 650,000 ค่าดาวน์ 20% ยอดดาวน์ 650,000 x 20% = 130,000 บาท  ส่วนที่เหลือ (520,000) เป็นยอดจัดเข้าไฟแนนซ์

2. ค่างวด ผ่อนต่อเดือน

รายนี้ก็มีระยะเวลาต่างกันไปตั้งแต่ 3 ปี ยัน 6 ปี เวลาเรากู้ไฟแนนซ์ สิ่งที่ตามมาคือดอกเบี้ย โดยดอกเบี้ยผ่อนรถเป็นดอกเบี้ยประเภทเงินต้นคงที่ (Flat rate) ซึ่งต่างจากดอกเบี้ยทั่วไปที่จะลดต้นลดดอก (Effective rate) ดังนั้น Flat rate จะคิดดอกเบี้ยเสมือนว่าเงินต้นเท่ากันตลอดช่วงเวลาที่ผ่อน เช่น ถ้าคุณกู้ 520,000 บาท ดอกเบี้ยที่คิดจะเปรียบเสมือนเงินต้นของคุณอยู่ที่ 520,000 บาทตลอดเวลา

ถ้าระยะเวลาผ่อน 5 ปี ที่ดอกเบี้ย 2.5% ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายตลอดสัญญาคือ 520,000 x 2.5% x 5 = 65,000 เห็นไหม ดอกเบี้ยถูก คิดเสมือนว่ามีเงินต้นที่ 520,000 ตลอดช่วงเวลาการผ่อน ต่างจากดอกเบี้ยแบบ effective rate ที่จะคิดดอกเบี้ยตามเงินต้นที่เหลืออยู่จริงในงวดนั้น ๆ ทำให้โดยสรุปค่าผ่อนจะตกเดือนละ 9,750 บาท/เดือน (ปีละ 117,000 บาท)

3. ค่าน้ำมัน

สภาพการจราจรที่บ้านเราอยู่ที่ 12 กิโลลิตร โดยที่น้ำมัน 26 บาทต่อลิตร จะตก 2.16 บาทต่อกิโลเมตร วันนึงเราขับรถไป-กลับนั้นประมาณ 50 กิโลเมตร ค่าน้ำมันวันนึงก็ประมาณ 150 บาท ตกเฉลี่ยเดือนละ 4,500 บาท (ปีละ 54,000 บาท)

4. ค่าทางด่วน

หลายคนเส้นทางจากบ้านไปที่ทำงาน โดนหลายต่อแต่เอาคร่าวๆว่า โดนต่อเดียวเที่ยวละ 60 บาทไปกลับ 120 บาท เดือนนึงก็เท่ากับ 3,000 บาท (ปีละ  36,000 บาท)

5. ค่าพ.ร.บ./ค่าประกัน

อันนี้ต้องมีครบทั้งป้องกันค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุ และทำตามกฎ เอาแบบประหยัด ประกัน 3+ รวมกันตกปีละประมาณ 7,000 บาท

6. ค่าซ่อมบำรุงตามระยะทาง

ระยะแรก ๆ ก็ดีอยู่หรอก ซ่อมน้อยหรือมีโปรโมชั่นเช็คซ่อมฟรี แต่ในระยะยาวทุก 10,000 กิโล ท่านต้องเข้าศูนย์เปลี่ยนนู้นนี่นั้น ก็ประมาณ 5,000 บาท ปีนึงขับประมาณ 15,000 กิโลก็ 7,500 บาทต่อปี

7. ค่าจิปาถะ

ค่าต่อทะเบียน ค่าจอดรถ ค่าล้างรถ เช็ดฝุ่น ดูดเบาะ ที่สำคัญ ค่าปรับจากการฝ่าฝืนกฎจราจร เอาเป็นเหมา ๆ รวมที่ 5,000 บาทต่อปี

 

8. ค่าเสื่อม

รถยนต์เมื่อใช้ไปมูลค่ามันก็จะลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งการลดค่าของรถจะหนักมาก ๆ ในช่วงแรก อย่างถ้าเราถอยรถออกจากโชว์รูม แล้วแวะเอาไปให้เต็นท์ตีราคาก็ลงมาเกิน 10% แล้ว และโดยทั่วไปมูลค่ารถ 5 ปีราคาจะเหลือประมาณ 50% ของราคาซื้อมา นั่นหมายความว่า ซื้อรถมา 5 ปีราคา 650,000 เอาไปขายเหลือ 325,000 บาท

 

 

สรุปเลยนะ รวมค่าใช้จ่ายรถคร่าวๆ ปีนึงก็จะอยู่ที่ประมาณ 226,500 บาท ยังไม่รวมค่าดาวน์รถครั้งแรก รวมกับค่าเสื่อมรายปีเข้าไป แต่ถ้ารวมค่าใช้จ่ายตลอด 5 ปีล่ะ? บวกลบคูณหารรายจ่ายที่เราต้องเสียไปกับรถสุดรักก็ 1,140,000 บาท ใช่ค่ะล้านกว่าบาท!!  ในระยะเวลา 5 ปี  ที่จะเอารถไปขายต่อมันก็เหลือราคาเพียงแค่ 325,000 บาท เงินสูญไปตั้ง 815,000 บาท

มีรถ…มีแต่ลดจริง ๆ

ลองคิดกันดูเล่น ๆ แล้วกันว่ามันคุ้มหรือไม่ที่เสียค่าอัดฉีดไปกับรถแสนรักในราคาแทบจะซื้อบ้านได้ตั้งหนึ่งหลัง แต่พอเอาไปขายต่อก็ไม่ต่างอะไรกับให้เขาไปฟรี ๆ  ข้อมูลนี้หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจซื้อรถที่เคยคิดกันว่ารถจะเป็นทรัพย์สินของเรา  ที่มาพร้อมกับหนี้สินอีกเพียบ

ขอบคุณ : ข้อมูลอ้างอิงจาก www. bualuang.co.th

 

เรียบเรียงโดย: Kittiya K.